คู่มือการเขียนจดหมายสมัครงานหรือ Cover Letter ให้ได้งาน พร้อมตัวอย่าง
Cover letter หรือที่เราเรียกกันว่า จดหมายสมัครงาน เป็นเอกสารสำหรับใช้ยื่นสมัครงานในหลายๆ ประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วย เป็นการส่งจดหมายสมัครงานเพื่อให้ผู้ว่าจ้างพิจารณาก่อนการเรียกเข้าไปสัมภาษณ์งาน อาจจะยังไม่แน่ใจว่าการเขียนจดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษที่ดีต้องเขียนอย่างไรบ้าง เราเลยได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่คุณควรรู้มาให้ไว้ทั้งหมดในบทความนี้แล้ว ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันสักนิดว่าจริงๆ แล้วจดหมายสมัครงานคืออะไร
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันสักนิดว่าจริง ๆ แล้วจดหมายสมัครงานคืออะไร
จดหมายสมัครงานหรือ Cover letter คืออะไร?
Cover letter จดหมายปะหน้าหรือที่เรียกว่าจดหมายสมัครงานคือเอกสารที่คุณส่งพร้อมกับประวัติย่อของคุณที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทักษะและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานที่คุณสมัคร โดยทั่วไปจะมี 3-4 ย่อหน้าที่เน้นทักษะ ประสบการณ์ และความสำเร็จของคุณที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่คุณสมัคร
จดหมายสมัครงานมีความสำคัญอย่างไร?
Cover letter หรือจดหมายสมัครงานนั้นมีความสำคัญอย่างมากเนื่องจาก
- เป็นสิ่งแรกที่ทางบริษัทจะได้อ่านคัดกรองโดยคร่าวๆเกี่ยวกับตัวคุณ หลังจากนั้นจะเป็นการพิจารณาแนบกับ CVหรือเรซูเม่ ให้ผู้จ้างเห็นว่าคุณมีข้อดีอะไรบ้างและเหมาะสมกับตำแหน่งงานหรือไม่
- เป็นสื่อในการบอกเล่าเรื่องราว เกริ่นนำเกี่ยวกับตัวเราเอง เพื่อให้ได้สัมภาษณ์งาน หากเราเริ่มต้นดีก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้ไปต่อในรอบของการสัมภาษณ์งาน
- จดหมายสมัครงาน เป็นจดหมายที่เปิดโอกาสให้เราแนะนำตัวเอง ทักษะ ความสามาารถ บุคคลิกภาพ ที่สื่อออกเป็นสำนวนภาษาได้ระเอียดและครอบคลุมมากกว่าการเขียน CV หรือเรซูเม่
จดหมายสมัครงานที่ดีควรเป็นอย่างไร?
โครงสร้างและเทคนิคในการเขียนจดหมายสมัครงานที่ดี
หัวข้อเรื่อง
หัวข้อเรื่องของจดหมายสมัครงานที่ดีควรประกอบไปด้วยชื่อ นามสกุล ตำแหน่งงานที่คุณต้องการสมัคร ที่อยู่ พร้อมข้อมูลสำหรับติดต่อ โดยห้ามลืมเขียนถึงตำแหน่งงานที่คุณต้องการสมัครงานเด็ดขาด เนื่องจากเป็นสิ่งแรกๆ ที่ HR หรือผู้พิจารณา ของคุณตรวจดูว่าคุณสมัครงานเข้ามาในตำแหน่งอะไร เนื่องจากองค์กรนั้นอาจกำลังเปิดรับสมัครหลายตำแหน่งงานพร้อมกันก็เป็นได้
Salutation
เนื้อหาในจดหมายสมัครงาน
เนื้อหาใน Cover letter หนังสือสมัครงาน โดยทั่วไปควรประกอบไปด้วยข้อมูลสำหรับติดต่อซึ่งอยู่ในส่วนของหัวข้อเรื่อง รวมทั้งประวัติส่วนตัว ประสบการณ์ด้านการทำงาน การศึกษา ทักษะ รวมทั้งส่วนเพิ่มเติมอื่นๆไม่ว่าจะเป็น ใบประกาศนียบัตร ทักษะทางด้านภาษา คอร์สอบรมที่ได้เรียนรู้เพิ่มเติม การเข้าร่วมฟังประชุมหรือสัมมนาที่สำคัญ บทความวิชาการที่ได้รับการเผยแพร่ รางวัลที่ได้รวบ บทความในอินเทอร์เน็ต รวมทั้งประสบการณ์ด้านอาสาสมัครที่เคยได้ทำก่อนหน้าด้วย
อย่างไรก็ตามหลายคนอาจสงสัยว่าคุณควรใส่ข้อมูลเกี่ยวกับงานอดิเรกลงไปในจดหมายสมัครงานด้วยหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้หากคุณมีประสบการณ์ด้านการทำงานหรือข้อมูลที่สำคัญอื่นๆ มากพอแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ แต่ถ้าคุณเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ และยังไม่มีประสบการณ์มากนัก การที่มีงานอดิเรกโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับลักษณะของงานที่ต้องการสมัคร ก็สามารถใส่เข้าไปในได้ โดยเขียนให้มีความน่าสนใจและเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่ต้องการสมัครก็จะเป็นประโยชน์มาก
การเขียนปิดท้ายจดหมายสมัครงาน
การเขียนชื่อหรือเซ็นต์ชื่อ
แจกฟรีหนังสือคำศัพท์
ภาษาอังกฤษทางธุรกิจ
- 10 หัวข้อสำคัญทางธุรกิจ
- 100 คำศัพท์
- พร้อมตัวอย่างทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
เราก็ได้เรียนรู้กันมากขึ้นแล้วว่าการเขียนจดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษที่ดีประกอบไปด้วยโครงสร้างและข้อมูลอะไรบ้างที่สำคัญ อีกข้อที่ควรรู้ก็คืออ่านให้ดีว่าบริษัทหรือองค์กรที่คุณต้องการสมัครนั้น เขาต้องการเรซูเม่หรือ CV เพราะแต่ละที่ก็ต้องการแตกต่างกันออกไป โดย CV ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเปิดรับสมัครงานทางด้านวิชาการหรือนักวิจัยเสียมากกว่า ที่สำคัญอย่างมากอีกอย่างหนึ่งก็คือ ควรตรวจทานให้ดีก่อนส่ง และไม่ใช้ CV เดียวกันสำหรับสมัครงานหลายๆ ที่ เพราะไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ หรือความใส่ใจที่แสดงให้เห็นว่าคุณต้องการสมัครงานกับพวกเขาจริงๆ และพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
รู้หรือไม่ CV กับเรซูเม่ ไม่เหมือนกันคลิกเพื่ออ่านบทความ cv กับ เรซูเม่ ต่างกันยังไง
แล้วคุณล่ะพร้อมรึยัง
วัดระดับภาษาอังกฤษ ฟรี!
กับอาจารย์เจ้าของภาษา