11 Quantifiers มีคำว่าอะไรบ้าง พร้อมวิธีใช้และโครงสร้างประโยค
Quantifiers คืออะไร
Quantifiers เป็นคำที่ใช้ในการบอกปริมาณของสิ่งต่างๆในภาษาอังกฤษ เช่น some, any, much, many, a lot of, plenty of, few, several, most, none, each และ every ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถกล่าวถึงปริมาณของสิ่งต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง เช่น
“I have some money” หมายถึง “ฉันมีเงินบางส่วน” หรือ “There are many people here” หมายถึง “มีคนมากมายที่นี่” การเรียนรู้หลักการใช้ quantifiers เหล่านี้เป็นหลักไวยากรณ์สำคัญที่ผู้พูดและผู้เรียนภาษาอังกฤษควรทราบ และเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน รวมถึงการสอบต่างๆด้วย ซึ่งแต่ละคำมีการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามบทบาทของประโยค โดยมีกฎในการใช้งานดังนี้
Table of Contents
หลักการใช้ Quantifiers
1. Some
ใช้เมื่อต้องการกล่าวถึงปริมาณที่ไม่มากมาย และมักใช้กับกริยาพหูพจน์และไม่กำหนดจำนวน
โครงสร้างประโยค: (Subject + have + some + Plural noun (คำนามพหูพจน์)
- I have some apples. (ฉันมีแอปเปิ้ลอยู่บ้าง)
- She has some friends. (เธอมีเพื่อนอยู่บ้าง)
2. Any
ใช้ในประโยคคำถามและปฏิเสธและใช้ได้กับทั้งคำนามนับได้และนับไม่ได้
โครงสร้างประโยค: ( Subject + Verb + any + Uncountable/Countable Noun)
- Do you have any questions? (คุณมีคำถามไหม?)
- I don’t have any money. (ฉันไม่มีเงินเลย)
3. Much
ใช้เมื่อต้องการกล่าวถึงปริมาณที่เยอะมาก และมักใช้กับคำนามที่นับไม่ได้ (uncountable nouns) เช่น water, rice, sugar, money
โครงสร้างประโยค: (Subject + Verb+ much + Uncountable noun)
- There is too much traffic. (มีการจราจรหนาแน่นมากเกินไป)
- I don’t have much time. (ฉันมีเวลาไม่มาก)
4. Many
ใช้เมื่อต้องการกล่าวถึงจำนวนของสิ่งของที่มีจำนวน เยอะและมักใช้กับคำนามนับได้ที่เป็นพหูพจน์
โครงสร้างประโยค: Subject + Verb + many + Plural noun (คำนามพหูพจน์)
- There are many apples in the basket. (มีแอปเปิ้ลหลายลูกในตะกร้า)
- We didn’t get many responses from the survey. (เราไม่ได้รับการตอบกลับจากการสำรวจนักเรียน)
- How many books do you have? (คุณมีหนังสือกี่เล่ม?)
5. A lot of/Plenty of
ใช้เมื่อต้องการกล่าวถึงของจำนวนมาก หรือคำนามที่นับได้ (Countable Noun) เช่น คน หรือ วัตถุ เช่น books, apples, cars, people เป็นต้น โดยทั่วไปแล้ว “a lot of” และ “plenty of” สามารถใช้แทนคำว่า “many” ได้ แต่มีความหมายที่สามารถให้ความเน้นได้มากกว่า
โครงสร้างประโยค:( Subject + Verb + a lot of/plenty of + Noun)
- There are a lot of people at the party. (มีคนเยอะมากที่งานปาร์ตี้)
- She has plenty of time to finish her work. (เธอมีเวลาเพียงพอในการทำงาน)
6. Few
ใช้เพื่อแสดงจำนวนน้อยหรือไม่มากนักของสิ่งของหรือบุคคล โดยมักใช้นำหน้าคำนามนับได้พหูพจน์
โครงสร้างประโยค: ( Subject + Verb + few + Plural noun (คำนามพหูพจน์))
- There are few people in the office. (มีคนน้อยมากในสำนักงาน)
- I have few friends. (ฉันมีเพื่อนน้อย)
7. Several
เป็นคำบอกปริมาณสิ่งของจำนวนมากกว่า 3 ขึ้นไป แต่ไม่มากเท่า many และคำ ๆ นี้จะตามด้วยคำนามนับได้พหูพจน์
โครงสร้างประโยค: ( Subject + Verb + several + Plural noun (คำนามพหูพจน์))
- Several students came to the party. (มีนักเรียนหลายคนมาที่ปาร์ตี้)
- I have several things to do today. (ฉันมีสิ่งที่ต้องทำหลายอย่างในวันนี้)
8. Most
ใช้เมื่อต้องการกล่าวถึงจำนวนส่วนใหญ่ของสิ่งของ ใช้กับคำนามพหูพจน์ ที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง
โครงสร้างประโยค: Most + Plural noun (คำนามพหูพจน์)+ verb + object
- Most students like pizza. (นักเรียนส่วนใหญ่ชอบพิซซ่า)
- Most people use smartphones. (คนส่วนใหญ่ใช้สมาร์ทโฟน)
9. None
ใช้แสดงว่าไม่มีอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่มีเลย ใช้ได้กับคำนามทั้งเอกพจน์และพหูพจน์
โครงสร้างของประโยค: None + Noun + Verb
- There is none left. (ไม่เหลืออีกเลย)
- I have none of those. (ฉันไม่มีเหล่านั้นเลย)
10. Each
ใช้แสดงว่าเรากำลังพูดถึงแต่ละบุคคลหรือสิ่งของในกลุ่ม ใช้กับคำนามที่เป็นเอกพจน์ โดย Each ยังสามารถใช้กับคำนามพหูพจน์ได้อีกด้วย แต่ต้องตามด้วย ‘of’ เสมอ
โครงสร้างประโยค: Each + Singular Noun + Verb
- Each student has a textbook. (นักเรียนแต่ละคนมีหนังสือเรียน)
- I gave each child a toy. (ฉันให้เด็กแต่ละคนของเล่น)
11. Every
ใช้เมื่อต้องการกล่าวถึงสิ่งของที่เป็นทั้งหมด และใช้กับคำนามที่เป็นเอกพจน์เท่านั้น
โครงสร้างประโยค: Every + Singular noun + Verb
- Every student needs to bring a notebook to class. (นักเรียนทุกคนต้องเอาสมุดบันทึกมาเรียน)
- I eat breakfast every day. (ฉันกินอาหารเช้าทุกวัน)
จากตัวอย่างประโยคข้างต้น เราสามารถสรุปได้ว่าการใช้ quantifiers เหล่านี้ต้องใช้คำนามพหูพจน์หรือไม่พหูพจน์ในตำแหน่งที่เหมาะสมตามกริยา โดยสามารถใช้ร่วมกับประโยคกริยาสมาสเตอร์หรือกริยาเอกพจน์ได้ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้ quantifiers เหล่านี้ร่วมกับคำนามที่ไม่มีรูปพหูพจน์ได้ โดยใช้ “a” หรือ “an” ร่วมด้วย เช่น “a lot of money,” “plenty of water,” “few chairs,” และ “several books”
ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ การใช้ quantifiers เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ เพราะมันช่วยให้เราสามารถเลือกใช้คำถูกต้องตามบทบาทของประโยคได้ และทำให้คำพูดของเราเป็นมิตรกับภาษาอังกฤษที่เรากำลังเรียน การเข้าร่วมคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนของเรา จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการใช้ quantifiers เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษให้ดียิ่งขึ้น
แจกฟรีหนังสือคำศัพท์
ภาษาอังกฤษทางธุรกิจ
- 10 หัวข้อสำคัญทางธุรกิจ
- 100 คำศัพท์
- พร้อมตัวอย่างทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
แล้วคุณล่ะพร้อมรึยัง
วัดระดับภาษาอังกฤษ ฟรี!
กับอาจารย์เจ้าของภาษา