เมื่อลองเปรียบเทียบภาษาอังกฤษทั้งแบบอเมริกันและแบบบริติชดูแล้วจะเห็นได้ว่า ภาษาอังกฤษแบบบริติชมักจะใช้ l ดับเบิ้ลเพิ่มเข้าไปเมื่อตามด้วยสระภาษาอังกฤษ e หรือใช้ ou เป็นสระช่วยสะกดคำมากกว่า o เพียงอย่างเดียว คำว่า Check ที่เราใช้กันบ่อย ๆ ภาษาอังกฤษแบบบริติชก็มีการสะกดคำอีกแบบ
นอกจากนั้นหลายคำในภาษาอังกฤษแบบอเมริกันที่สะกดด้วยตัว z ก็สะกดด้วยตัว s แทนในภาษาอังกฤษแบบบริติช อีกหนึ่งวิธีการสะกดคำบ่อย ๆ ที่เป็น ter หรือ tre ก็ต่างกันเพราะเป็นการใช้ภาษาอังกฤษคนละแบบ และนอกเหนือไปจากการสะกดคำที่ต่างกันเล็กน้อยแล้ว ก็ยังมีบางคำที่ใช้แตกต่างไปกันเลยอย่างสิ้นเชิงเช่นคำว่า Pants หรือ Trousers นั่นเอง
หากคุณมองเห็นถึงความแตกต่างและสามารถบ่งบอกได้ว่าวิธีการสะกดแบบไหนเป็นของภาษาอังกฤษแบบใด ก็จะทำให้คุณเข้าใจความต่างของภาษาอังกฤษแต่ละแบบได้มากขึ้น และยังนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมมากขึ้นด้วย
แน่นอนว่าการใช้ปะปนกันบ้างไม่ใช่เรื่องผิดร้ายแรงอะไร เพราะจุดมุ่งหมายในการเรียนภาษาก็คือสำหรับใช้ในการสื่อสาร แต่การเรียนรู้ถึงความแตกต่างก็เป็นประโยชน์อย่างมากที่ช่วยให้คุณใช้งานภาษาอังกฤษในการเรียนหรือทำงานได้อย่างเป็นมืออาชีพมากขึ้น